รูปแบบปัญหาภัยคุกคามที่มีผลกระทบต่อประเทศไทย
สามารถจำแนกได้ 22 รูปแบบดังนี้.
1. ปัญหายาเสพติด
ยาเสพติดนับเป็นภัยที่คุกคามและบ่อนทำลายประเทศชาติ การขจัดภัยยาเสพติดให้ได้ผลอย่างยั่งยืนต้องอาศัยการผนึกพลังของทุกภาคส่วน มาร่วมกันสร้าง "รั้ว" ป้องกันในทุกระดับให้ครอบคลุมทุกพื้นที่
ยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน"
คือยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายรัฐบาลชุดปัจจุบันที่มุ่งสร้างกิจกรรม สร้างภูมิคุ้มกัน สร้างกระบวนการทำงานร่วมกันทั้งภาครัฐและประชาชนอย่างครบวงจรเพื่อป้องกันจุดอ่อนและสร้างเกราะป้องกันที่สกัดกั้นไม่ให้ยาเสพติดรุกล้ำเข้ามา
รั้วชายแดน:
ยาเสพติดส่วนใหญ่มีแหล่งผลิตมาจากตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้านภารกิจในการป้องกันปัญหายาเสพติดจะมีกองบัญชาการกองทัพไทย กอ.รมน.กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นหน่วยงานหลักในการสกัดกั้นและปลุกพลังชุมชนตามแนวชายแดนมาเป็นแนวร่วมสำคัญเพื่อป้องกันยาเสพติดไม่ให้แทรกซึมเข้ามา
รั้วชุมชน:
หมู่บ้านและชุมชนที่เข้มแข็งย่อมช่วยในการแก้ปัญหายาเสพติดทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงมุ่งสร้างภูมิคุ้มกันให้ชุมชนด้วยการสนับสนุน การมีส่วนร่วมของชุมชนในการแก้ไขปัญหาสังคมด้านต่างๆ โดยกระทรวงมหาดไทย กอ.รมน. สำนักงาน ป.ป.ส. มีบทบาทสำคัญที่จะประสานความร่วมมือกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และ อสม.ในการสร้างรั้วให้กับชุมชนเพื่อป้องกันภัยยาเสพติด
รั้วสังคม:
เป้าหมายมุ่งเน้นไปที่เด็กและเยาวชน ภารกิจสำคัญคือ การจัดระเบียบสังคมแบบบูรณาการ ดำเนินการขยายพื้นที่และกิจกรรมเชิงบวกแก่เยาวชนให้มากขึ้น อาทิ ลานกีฬา ลานดนตรี ลานกิจกรรมสร้างสรรค์ ฯลฯ เพื่อดึงเยาวชนออกมาให้ไกลจากยาเสพติด ภารกิจนี้ทุกกระทรวง ทบวง กรม โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติล้วนมีบทบาทสำคัญในการสร้างรั้วส่วนนี้
รั้วโรงเรียน:
การมีพฤติกรรมเสี่ยงในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เป็นที่มาของพฤติกรรมเสี่ยงเรื่องอื่นๆ ตามมา เช่น หนีเรียน มั่วสุม ก้าวร้าว เสพยาเสพติด ฯลฯ การแก้ไขปัญหาพฤติกรรมเสี่ยงของเยาวชนจึงมุ่งเน้นไปที่สถานศึกษาทุกระดับภารกิจนี้มีกระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยหลักในการสำรวจและจัดทำข้อมูลและค้นหาผู้เสพ/ผู้ค้า/เยาวชนกลุ่มเสี่ยง โดยมีครูเป็นกลไกสำคัญที่จะอบรมและปลูกฝัง รวมทั้งดูแลสอดส่องพฤติกรรมของเด็กและเยาวชนด้วยการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ในสถานศึกษาให้แก่เด็กและเยาวชนด้วยการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ในสถานศึกษาให้แก่เด็กและเยาวชนเหล่านี้
รั้วครอบครัว:
ครอบครัวที่เข้มแข็งย่อมส่งผลต่อพื้นฐานความเข้มแข็งของประเทศกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นหน่วยงานหลักที่จะเข้ามาส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน จัดอบรมให้ความรู้ในการป้องกันยาเสพติด เพื่อทำให้ความเข้มแข็งของครอบครัวในชุมชน จัดอบรมให้ความรู้ในการป้องกันยาเสพติด เพื่อทำให้ความเข้มแข็งของครอบครัวกลับคืนมาเป็นหน่วยทางสังคมที่มีความพร้อมในการดูแลสมาชิกในครอบครัวอย่างแท้จริง
2. ปัญหาเรื่องการค้าอาวุธสงคราม
การค้าขายอาวุธสงครามเป็นธุรกิจขนาดใหญ่
ซึ่งมีมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ต่อปี
ในขณะที่การค้าโลกขยายตัวสู่ยุคโลกาภิวัฒน์
การค้าอาวุธสงครามก็เข้ากระแสโลกาภิวัฒน์ตามไปด้วย
ถามว่า ในเมื่อสงครามเย็นยุติลง การเผชิญหน้าด้วยกำลังอาวุธขนาดใหญ่ยุติ
แล้วทำไมธุรกิจค้าอาวุธสงครามถึงเดินหน้าต่อไปได้ดี
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะยังมีความตึงเครียดอยู่
ในหลายภูมิภาคของโลก
ที่ประเทศต่าง ๆ จำเป็นต้องสะสมอาวุธสงคราม
หรือบางประเทศมีสงครามกลางเมือง
ที่ต่อสู้กันด้วยอาวุธสงคราม
ผู้นำเผด็จการเน้นการเพิ่มกำลังทหารให้แข็งแกร่ง
เพื่อรักษาสถานะของตนเอง
นอกจากนั้น ยังเกิดสงครามการก่อการร้ายทั่วโลก
3. ปัญหาเรื่องการก่อการร้าย
การก่อการร้าย คือ การกระทำหรือขู่จะกระทำการรุนแรงของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ไม่มีอำนาจหน้าที่โดยมุ่งต่อผลทางจิตใจและพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ทางการเมืองศาสนาหรือลัทธิอุดมการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง เช่น ต้องการคาวมเปลี่ยนแปลงการปกครอง การเปลี่ยนแปลงนโยบายหรือการบ่งแยกดินแดนออกเป็นอิสระ
๔.ปัญหาแรงงานต่างด้าว
ปัญหาแรงงานต่างด้าวในประเทศไทย มูลเหตุเนื่องจากมีการขยายตัวทางเศษฐกิจของไทยอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทำให้ความต้องการทางด้านแรงงานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งแรงงานส่วนใหญ่ไม่ได้ถือสัญชาติไทย แต่กลับเป็นแรงงานที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เช่น พม่า ลาว กัมพูชา ฯลฯ ส่วนใหญ่แล้วจะเข้ามาค้าแรงงาน ตามโรงงานอุตสาหกรรม งานก่อสร้าง งานแม่บ้าน งานเกษตร บริการเสิร์ฟ จนถึงหมอนวดแผนโบราณ ข้อมูลล้าสุดจากกระทรวงแรงงานพบว่าปัจจุบันมีแรงงานต่างด้าวในประเทศไทยที่ถูกต้องตามกฏหมายที่มาลงทะเบียน 7 แสนกว่าคน ขณะที่แรงงานที่มีจริงๆแล้วประมาณ 1 ล้านกว่าคนโดยส่วนต่างทีเกิดขึ้นนั้น เป็นแรงงานที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
ปัญหาแรงงานต่างด้าวที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย ได้ก่อให้เกิดปัญหาต่อประเทศ 4 ประการ
1. ด้านความมั่นคง
- มีผลกระทบด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ว่าด้วยชนกลุ่มน้อย เขตเสรีแรงงานเถือน กฎหมายและนโยบายแรงงานที่ไม่ชัดเจนไม่มีการวางมาตรการอย่างเป็นระบบ ยืดหยุ่นผ่อนผันในนโยบายทำให้เกิดปัญหาสะสมมายาวนาน ปัญหาเกิดจากเจ้าหน้าที่ เช่น การคอร์รัปชั้นของเจ้าหน้าที่ การขาดการประสานงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่มีข้อมูลของทางการที่ชัดเจน ตรงกัน และไม่มีการเชื่อมโยงข้อมูลต่อกันได้
2. ด้านสาธารณสุข
การควบคุมโรค การจำกัดผลกระทบของโรคร้ายแรง การสุขอนามัยละสิ่งวดล้อมในการทำงาน การสุขาภิบาลสิ่งวดล้อมที่ไม่เป็นระเบียบ เป็นภาระในการใช้งบประมาณ การบริการและการรักษาตกอยู่กับรัฐไทย
3. ด้านเศรษฐกิจ.
- เป็นประเด็นของต้นทุนค่าแรงงาน การแย่งงาน เกิดธุรกิจนอกระบบ ความ ต้องการ ความจำเป็น และจำนวนแรงงานต่างด้าวที่แท้จริง ทำให้ไม่สามารถสร้างตลาดแรงงานที่แท้จริงได้
4. ด้านสังคม
- ทำให้เกิดปัญหาด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การก่ออาชญากรรม การแบ่งแยกทางสังคม ขบวนการลักลอบเข้าเมืองและการค้ามนุษย์ การสร้างอิทธิพล ยาเสพติด โสเภณี ซึ่งเป็นภาระของรัฐในเรื่องการจัดการ การพึงพาบริการโรงเรียนของรัฐ และปัญหาเด็กต่างต้าวและเด็กเลือดผสมในประเทศต่อไป
๕.ปัญหาบ่อนการพนัน
- บ่อนการพนันนอกกฎหมายต่าง ๆ เป็นแหล่งอาชญากรรมและการฉ้อราษฎร์บังหลวง รายได้จำนวนหนึ่งจ่ายให้แก่นักการเมืองและนายตำรวจบางคน และจากความจำเป็นที่บ่อนการพนันจะต้องป้องกันตนเองและลูกค้าจากองค์การอาชญากรรมกลุ่มอื่น ๆ จึงต้องจัดหามือปืนหรือเข้าร่วมกับองค์การอาชญากรรมต่าง ๆ เพื่อความอยู่รอด ในบางขณะก็มีการฆ่าฟันกันเองเพื่อชิงความยิ่งใหญ่ในวงการธุรกิจผิดกฎหมาย ทั้งนี้ เพราะหนี้จากการพนันไม่สามารถฟ้องร้องบังคับในศาลได้ การทวงหนี้สินจึงใช้วิธีการนอกกฎหมาย เช่น การขู่กรรโชก การทำร้ายร่างกาย หรือการฆ่า และเนื่องจากบ่อนเป็นที่รวมของนักเลงและผู้ที่มีอาชีพทุจริต จึงเป็นแหล่งมั่วสุมของผู้ค้ายาเสพติด อันธพาล โสเภณี และผู้ประกอบอาชีพผิดกฎหมายต่าง ๆ ส่งผลให้ปัญหาอาชญากรรมเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบไปยังระบบการเมืองการปกครองในส่วนรวมอีกด้วย เพราะเงินจากแหล่งการพนันยังถูกใช้ในการสร้างฐาน อำนาจทางการเมือง ของนักการเมืองทุกระดับ
๖. ปัญหาการทุจริตในการประมูลงาน
การทุจริตในระบบราชการโดยเฉพาะการประมูลงานของภาครัฐ จะสร้างความเสียหายต่อการพัฒนาประเทศ เป็นอย่างมาก หากมีการทุจริตเพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ หรือเงินที่จะนำใปใช้พัฒนาประเทศ เสียไป 10 เปอร์เซ็นต์ ก็จะใช้งบได้แค่ 90 เปอร์เซ็นต์
การทุตจริตส่งผลกระทบอย่างร้ายแรง ได้ทำลายการปฎิบัติหน้าที่ ของเจ้าหน้าที่ของรัฐทำให้แผนงานโครงการมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตทางด้าน การพัฒนา เศษฐกิจ สังคม ต้องประสบกับปัญหาเป็นอย่างมาก โดยประเทศไทยได้พบกับปัญหาการทุตจริตคอรัปชั้นมาตลอด การทุตจริตคอ์รับชั้นมีตั้งแต่การเมืองระดับประเทศ ระดับท้องถิ่น ลงไปถึงระดับข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร ( ไม่ทุกคน ) ตลอดจนการทุตจริตในภาคเอกชน ซึ่งเข้ามาร่วมงานกับภาครัฐ การสอบสวนและศึกษาเรื่องการทุตจริตคอร์รัปชั้นของคณะกรรมมาธิการของวุฒิสภา ได้แบ่งการทุตจริตออกเป็น 5 ประเภทดังนี้. 1. การทุจริตต่ตำแหน่งหน้าที่ 2. การทุตจริตการจัดซื้อจัดจ้าง 3. การทุตจริตในการให้สัมปทาน 4. การทุตจริตโดยการทำลายการตรวจสอบอำนาจรัฐ และ 5. การทุตจริตเชิงนโยบาย
1. การทุตจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
- เป็นการใช้อำนาจในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ ตนเอง หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
2. การทุตจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง
- มักพบในการประมูลงาน โครงการระหว่างรัฐและเอกชน
3. การทุตจริตในการให้สัมปทาน
- เป็นการแสวงหาผลประโยชน์จากโครงการของรัฐซึ่งมอบให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการแทนในลักษณะสัมทานผูกขาด
4. การทุตจริตโดยการทำลายระบบตรวจสอบอำนาจรัฐ
- เป็นการดำเนินการให้บุคคลที่มีสายสัมพันธ์กับผู้ดำรงค์ตำแหน่งทางการเมืองเข้าไปดำรงค์ตำแหน่งในองค์กรอิสระที่มีหน้าที่ด้านการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ
5. การทุตจริตเชิงนโยบาย
- เริ่มตั้งแต่การจัดทำโครงการ ระดับประเทศ แผน หรือ กลไกในการบริหารโครงการเกี่ยวข้องกับเครือข่ายผลประโยชน์ ที่เชื้อมโยงกันทุกระดับ โดยการทุตจริตคอร์รัปชั้นลักษณะนี้. มักจะเกิดขึ้นในโครงการใหญ่ๆระดับชาติ
๗. ปัญหาการลักลอบขนของหนีภาษี
- ภาษีอากรเป็นรายได้ที่สำคัญที่สุดของประเทศผู้ชำระภาษีอากรโดยถูกต้องจึงมีส่วนร่วมในการทำนุบำรุงละนำความเจริญมาสู่บ้านเมือง
- ส่วนผู้ลักลอบหรือหลีกเลี่ยงไม่ชำระภาษีอากรมุ่งแต่ผลประโยชน์ส่วนตน นับได้ว่าเป็นผู้บั้นทอนความมั้นคงทางเศษฐกิจของชาติ และเป็นการช่อโกงเอาเปรียบคนอื่นทั้งประเทศผู้ที่ซื้อสินค้าหนีภาษีทั้งที่พึ่งทราบได้จากราคาที่ต่ำกว่าปกติเท่ากับมีส่วนสนับสนุนในการลักลอบหรือหลีกเลี่ยงโดยตรง สินค้าหนี้ภาษีที่ซื้อไป จึงอยู่ในข่ายที่ถูกริบตามกฎหมายและอาจดำเนินคดีถ้าเจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้
8.ปัญหามือปืนรับจ้าง
นายตำรวจระดับหัวหน้าหน่วยปราบปรามมือปืนรับจ้าง อธิบายปรากฏการณ์ของการมีอยู่ของมือปืนในเมืองไทย ให้กับผู้จัดการ 360 รายสัปดาห์ฟังว่า ปัจจุบันอาวุธสงครามยังสามารถลักลอบข้ามาตามแนวชายแดนของไทยที่มีความยาวกว่า 1,700 กิโลเมตรได้อย่างง่ายดาย โดยมีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือนักการเมืองให้การสนับสนุน เมื่อได้อาวุธมาแล้วจึงค่อยส่งต่อ หรือแจกจ่ายให้กับบรรดามือปืนที่อยู่ใน'ซุ้ม' หรืออยู่ภายใต้อาณัติของตน เพื่อนำไปใช้ในกรณีที่มีการเลือกตั้ง เช่น ถล่มคู่แข่งทางการเมืองที่เริ่มเปล่งรัศมีเทียบเคียง หรือเอาไว้ข่มขู่บรรดาหัวคะแนนต่างไม่ให้แตกแถว หรือเอาไว้เก็บบรรดานักธุรกิจที่เข้ามาขัดขวางผลประโยชน์ที่เคยได้
๙. ปัญหาหนี้นอกระบบ
เงินที่คิดดอกเบี้ยสูงกว่าปกติมาก คนที่หาเงินกู้นอกระบบสามารถจ่ายชำระคืนทั้งต้นทั้งดอกไปพร้อมกัน แต่มีจำนวนคนไม่น้อย ที่ต้องผิดนัดชำระหนี้ จึงจำเป็นจะต้องถูกคิดค่าปรับ และได้พบกับวิธีการทวงหนี้จากผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบที่โหดเหียม ทำให้ได้รับความเดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็นการข่มขู่ การยึดทรัพย์สินเพื่อใช้หนี้ การทำลายข้าวของ และถึงขั้นทำร้ายร่างกาย
ลูกหนี้ที่ไปกู้เงินจากหนี้นอกระบบส่วนใหญ่แล้วจะเป็นผู้ที่มีอาชีพหาเช้ากินค่ำ ค้าขาย กรรมกร ชาวนา ชาวไร่ ผู้มีรายได้น้อยทั่วไป
๑๐. ปัญหาการค้ามนุษย์
เหยือค้ามนุษย์ที่พบในประเทศไทยส่วนใหญ่แล้วเป็นคนจากประเทศเพื่อนบ้านที่ถูกบังคับหรือล่อลวงมาเพื่อบังใช้แรงงานหรือแสวงหาผลประโยชน์ในธุระกิจทางเพศ ประชากรกลุ่มนี้จะมีอยู่หลายหมื่นคน เหยื่อค้ามนุษย์ในประเทศไทยมักพบในอุตสหกรรมโรงงาน ประมง อุตสหกรรมที่เกี่ยวกับการประมง ประมาณการตัวเลขว่าในแต่ละปีทางการไทยได้ส่งตัวเหยื่อค้ามนุษย์ชายกัมพูชากลับประเทศประมาณปีละ 23,000 คนกลับประเทศ
แรงงานต่างด้าวชนกลุ่มน้อย หรือบุคคลไร้สัญชาติในประเทศไทยจะมีความเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยือค้ามนุษย์มากที่สุด ทำให้เกิดปัญหา ด้านความมั้นคง ด้านสาธารณะสุข เศษฐกิจ และสังคม ทำให้เกิดปัญหาลักษณะเดียวกับแรงงานต่างด้าวในประเทศ
๑๑. ปัญหาการเรียกรับผลประโยชน์
- การทุจริตและประพฤติมิชอบในหน่วยงานของรัฐเป็นปัญหาสำคัญและเป็นปัญหาใหญ่
- การทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการเป็นปัญหาสังคมที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ บั่นทอนการพัฒนาประเทศและเป็นอุปสรรคต่อการสร้างความเจริญในสังคมและความผาสุกแก่ประชาชนมาเป็นระยะเวลายาวนาน ถึงแม้ว่าในปัจจุบันสังคมไทยมีความเข้าใจและตระหนักถึงปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการมากขึ้นแต่ปัญหาก็ยังเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางมีรูปแบบและพฤติกรรมการทุจริตที่เปลี่ยนแปลงและแตกต่างไปจากอดีต และมีความสลับซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งเหตุที่เป็นเช่นนั้นอาจเนื่องมาจากปัจจัยหลายๆ ด้านประกอบกัน เช่น ปัญหาทางด้านรายได้ ครอบครัว สังคม อิทธิพลทางการเมืองแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่หรือแม้กระทั่งปัญหาจากการผูกขาดอำนาจซึ่งอาจทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐนั้นๆ เล็งเห็นลู่ทางที่สามารถเรียกรับเงินหรือสินบนต่างๆ ได้โดยง่าย ดังเช่นกรณีตัวอย่างพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่ของรัฐในการเรียกรับสินบน ซึ่งเป็นการทุจริตต่อหน้าที่อันมีผลทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีพฤติการณ์ดังกล่าวต้องออกจากราชการ
๑๒. ปัญหาคิวรถผิดกฎหมาย
ปัญหาที่เกิดจาคิวรถผิดกฎหมาย เกิดการแย่งชิงผู้โดยสาร เป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์ ก่อให้เกิดอุบัติเหตุเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ผู้โดยสารนิยมใช้บริการรตู้ในการเดินทางเพราะคิดว่า มีที่นั่นนอน มีแอร์ ถึงที่หมายเร็ว แต่สิ่งที่ผู้โดยสารเลือกไม่ได้ก็คือ รถ และ คนขับ
อุบัติเหตุรถตู้โดยสารสาธารณะที่เกิดบ่อยครั้งเพิ่มมากขึ้นทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนไม่น้อยสาเหตุหลักคือขับรถเร็วเกินกำหนด บรรทุกผู้โดยสารเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เช่น จาก 14 ที่นั่งดัดแปลงเป็น 18 ที่นั่ง ดัดแปลงรถโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต ไม่ใช้เข็มขัดนิรภัย เบาะที่นั่งหลุดเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และในบางเส้นทางยังให้ผู้โดยสารยืนมาในรถอีด้วย
การสร้างความปลอดภัยในการใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะนั้น ต้องแก้ที่ระบบ เช่น การนำกลไกของสถานีขนส่งของ บขส. ซึ่งจะมีนายท่าปล่อยรถ และนายตรวจประจำสถานี มาใช้ในการตรวจสอบจำนวนที่นั่งโดยสาร และหน่วยงานรัฐอย่าง ขสมก.และบขส. ควรมีการสุ่มตรวจเป็นระยะ ในฐานะที่เป็นผู้ถือใบอนุญาตต้องสร้างกลไกตรวจสอบ เพราะเวลารถตู้ทำผิดโดนจับ คนที่โดนลงโทษไม่ใช่เจ้าของรถแต่เป็นผู้รับใบอนุญาต คือ ขสมก. หรือ บขส. ซึ่งรถในระบบหากโดนปรับที่นั่งเกิน คนที่จะโดนปรับคือ บขส. หรือ ขสมก. และต้องปรับตามกฎหมายกำหนด
๑๓. ปัญหาการลวงแรงงานไปทางประเทศ
ปัญหาการลอกลวงแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศปัจจุบันยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยแก้ยังไงก็แก้ไม่หมดและปรับกลยุทธรูปแบบการลอกลวงยบยลขึ้นไปอีกในการเข้าไปตีสนิทกับคนในหมู่บ้านเป้าหมาย และเสนอให้เป็นคนกลางในการไปหาคนงาน
๑๔. ปัญหาการต้มตุ๋นนักท่องเที่ยว
ปัญหาเรื่องการต้มตุ่นนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างประเทศ จะถูกมิจฉาชีพจากต่างประเทศเข้ามาต้มตุ่นด้วยกันเองโดยอาศัยประเทศไทยเป็นที่พักพิง ซึ่งจะมาในรูปแบบของนักท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องที่ยวต่างๆในประเทศ ทำให้ประเทศเสื่อมเสียในสายตาของชาวโลกได้และทำให้นักท่องเที่ยวประเทศต่างๆไม่กล้ามาเที่ยวในประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยขาดรายได้จากการการท่องเที่ยวไปอย่างมหาศาล
๑๕. ปัญหาการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า
ผลกระทบของการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า
- ฝนแล้ง
- ฝนตก / น้ำท่วม / ดินโคลนถล่ม
- ฝนตกไม่ถูกต้องตามฤดูการ
- เกิดภาวะโลกร้อน
สืบ นาคะเสถียร ยอมปลิดชีพตัวเองเพื่อกระตุ้นให้สังคมไทยตระหนักถึงปัญหาการบุกรุกทำลายป่าเมื่อ18 ปีที่แล้ว นับเป็นวีรกรรมที่น่ายกย่องเป็นอย่างยิ่ง แต่ถึงวันนี้ ผมหวั่นเกรงว่าความตายของคุณสืบอาจกลายเป็นความสูญเปล่าหรือไม่ ในโอกาสครบรอบวันตายของคุณสืบ ผมจึงขอร่วมสนับสนุนการรักษาป่าไม้และร่วมต่อต้านการตัดไม้ทำลายป่าซึ่งจะสร้างความวิบัติต่อประเทศชาติ.
ที่ถามว่าคุณสืบตายเปล่าหรือไม่ก็เพราะ ตามข้อมูลปี 2533 ประเทศไทยมีป่าไม้อยู่ทั้งสิ้น 87,488,536 ไร่ หรือคิดเป็น 27.3% ของพื้นที่ประเทศไทย แต่หลังจากที่คุณสืบตายไป 9 ปี คือ ณ ปี 2542 ป่าไม้เหลืออยู่เพียง 80,610,219 ไร่ หรือคิดเป็น 25.1% ของพื้นที่ประเทศไทยพื้นที่ป่าไม้หายไปถึง 6,878,317 ไร่หรือเท่ากับ 7 เท่าของขนาดของกรุงเทพมหานคร.
ถ้าหากเจาะลึกไปเฉพาะจังหวัดอุทัยธานี ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ส่วนหนึ่งของป่าห้วยขาแข้งจะพบว่า ในปี2533 ที่คุณสืบเสียชีวิตนั้น ยังมีพื้นที่ป่าไม้อยู่ 1,686,863 ไร่ แต่พอถึงปี 2542 หรือ 9 ปีหลังจากนั้น พื้นที่ป่าหายไปเหลือ 1,610,219 ไร่ หรือหายไป 76,644 ไร่ หรือเท่ากับประมาณ 213 เท่าของขนาดสวนลุมพินี .
๑๖. ปัญหาการเรียกค่าคุ้มครอง
- สถานประกอบการใหญ่ๆ
- วินมอร์เตอร์ไซร์
- สถานบันเทิง
- หวยเถื่อน
๑๗. ปัญหาการคอร์รัปชั่น
ปัญหาการทุตจริตคอร์รัปชั่นในประเทศไทย เปรียบเสมือนมะเร็งร้ายที่อยู่ควบคู่กับสังคมไทยมานาน ซึ่งไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้โดยเด็ดขาด
๑๘. ปัญหาทางด้านการเมือง
ประเทศไทยเผชิญกับปัญหาการเมืองที่หนักหน่วงเพราะเป็นปัญหาในเชิงโครงสร้างจะแก้ไขทีละเล็กทีละน้อยไม่ได้ แต่การแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างนั้นจะเผชิญกับความขัดแย้งทั้งในเชิงของดุลอำนาจและผลประโยชน์
ประชาชนคนไทยก็ยังอยู่ในวงเวียนของการเมืองแบบอุปถัมภ์ไม่สามารถไว้ใจเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนที่เลือกตั้งนักการเมืองคุณภาพต่ำที่เข้ามาคอยแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว ความคิดของทั้งสองฝ่ายนับวันก็จะยึดติดมากขึ้นเรื่อยๆ กล่าวคือ การเลือกข้างได้เกิดขึ้นแล้วและนับวันต่างฝ่ายต่างก็จะเชื่อมั่นในจุดยืนของตนและต่อต้านจุดยืนของฝ่ายตรงข้ามมากขึ้น
๑๙. ปัญหาการชุมนุมประท้วง
การประท้วง เป็นการแสดงออกด้วยการกระทำ เพื่อแสดงให้เห็นว่าคัดค้าน หรือ ไม่เห็นด้วย มีหลากหลายวิธี เช่น การ อดข้าวประท้วง การเดินประท้วง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการแสดงออกทางสังคมและการเมือง การประท้วงที่ใช้ความรุนแรงก่อให้เกิดความวุ่นวายจะกลายเป็น การจลาจล ในที่สุด
๒๐. ปัญหาภัยธรรมชาติ
การเปลี่ยนแปลงทางสภาวะแวดล้อมของโลก อาจเกิดขึ้นเนื่องจากปัจจัยธรรมชาติหรือจากการกระทำของมนุษย์ ได้ส่งผลให้เกิดปัญหาทางกายภาพหรือภัยพิบัติต่างๆ ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคต่างๆของโลก อาทิ แผ่นดินไหว สึนามิ อุทกภัย ตลอดจนภัยพิบัติอื่นๆ ก่อให้เกิดผลกระทบทั้งโดยตรงและโดยอ้อมต่อมวลมนุษย์ ลักษณะการเปลี่ยนแปลงมีตั้งแต่การเกิดขึ้นอย่างช้าๆไปจนถึงการเกิดอย่างฉับพลันและรุนแรง ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของสิ่งมีชีวิต จึงมีความจำเป็นที่จะต้องศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติในโลกต่างๆ เพื่อจะได้ปรับวิถึชีวิตให้สอดคล้องกับสภาวะในขณะนี้
๒๑. ปัญหาผู้มีอิทธิพล
ผู้มีอิทธิพล ได้แก่ บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ดำรงตนด้วยการกระทำการด้วยตนเอง หรือใช้ จ้างวาน สนับสนุนการกระทำการใด ๆ ที่ผิดกฎหมายหรืออยู่เหนือกฎหมาย ซึ่งผลของการกระทำนั้นเป็นการบ่อนทำลายเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน เป็นอุปสรรคขัดขวางการดำเนินการตามเจตนารมณ์ของประชาชน หรือทำลายคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยส่วนรวม ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐจะต้องดำเนินการดูแลให้มีการปฎิบัติตามกฎหมาย คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน รวมทั้งจัดระบบงานการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และเท่าเทียมกัน
๒๒.ปัญหาการจาบจวงสถาบัน
พูดกันแบบตรงๆ สถานการณ์ตอนนี้ สะท้อนถึงปัญหาความมั่นคงของชาติอย่างมาก การที่หมิ่นสถาบันฯ อย่างต่อเนื่อง เปิดเผย แสดงตัวตนอย่างชัดเจน รู้ตัวตน รู้หน้าตา รวมทั้งประกาศตนเป็น ศัตรูต่อองค์พระประมุข แสดงถึงปัญหาความมั่นคงของชาติ ได้ถูกคุกคามอย่างเป็นตัวเป็นตนชัดแจ้งแล้ว สะท้อนให้เห็นว่า หลายปีมานี้ หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ปล่อยปละละเลย ขณะเดียวกัน ระบอบเผด็จการทรราช ได้คุกคามอย่างเต็มระบอบครอบคลุม ครอบงำไปหลายภาคส่วน ทั้งส่วนราชการ องค์กรธุรกิจเอกชน ปลุกปั่น สร้างความเข้าใจที่ผิดต่อองค์พระประมุขอย่างร้ายแรงมาก โดยที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบซึ่งมีหน้าที่บางส่วนดูดาย ปล่อยปละละเลย บางส่วนเพิกเฉย ด้วยเป็นสมุนรับใช้ ทำให้กลุ่มคน รวมไปถึงขบวนการจ้องล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ มีความเป็นตัวตนชัดเจน ซึ่งภาพเหล่านี้ไม่ใช่เพิ่งจะเห็นชัดเจนในวันนี้ แต่ชัดเจนหลายปีมาแล้ว เพียงแต่วันนี้ชัดเจนแบบเปิดตัวตนมาเลยเรียกว่าไม่ต้องเกรงอกเกรงใจอะไรกันแล้ว
จริงแล้วประเทศไทยเป็นประเทศที่ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข พระมหากษัตริย์ไม่มีโอกาสที่จะปกป้องตัวของพระองค์ได้เลย เป็นหน้าที่ของคนไทยทั้งชาติ เพียงแต่ประชาชนไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ที่จะไปจัดการต่อกลุ่มคนชั่วร้ายเหล่านี้ ผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปล่อยปละละเลยได้อย่างไร นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีในส่วนงานที่รับผิดชอบ ปล่อยปละละเลยได้อย่างไร ปล่อยปละละเลยเท่านั้นยังไม่พอ กลุ่มคนที่จาบจ้วงสถาบันฯ ประกาศตน อาฆาตมาดร้ายต่อองค์พระประมุข ยังเป็นกลุ่มคนที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลเสียด้วยซ้ำ ที่มองเห็นวันนี้คือว่า ฝ่ายที่ถือครองอำนาจรัฐ มีผู้ที่ให้การหนุนหลังเป็นพวกจ้องล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์เสียเอง ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องที่ผมคนเดียวที่รับไม่ได้ แต่เชื่อว่าคนไทยเกือบทั้งประเทศ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ไม่สามารถจะยอมรับได้